รู้ก่อนฉีด Meso Fat สลายไขมันส่วนไหนได้บ้าง?

ฉีด Meso Fat ทางเลือกสลายไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

Meso Fat เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ได้มาจาก ถั่วเหลือง ไข่แดง และวิตามินอีกหลายชนิด ถือเป็นสารที่มีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายออกจากร่างกายได้โดยไม่ตกค้าง ประกอบด้วยตัวยาที่ออกฤทธิ์ในการสลายไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวกลายเป็นของเหลว จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางระบบขับของเสียต่างๆ เช่น ปัสสาวะ หรือเหงื่อ เป็นต้น

การฉีด Meso Fat เป็นหัตถการเพื่อการสลายไขมันที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่แม้ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วแต่ไขมันในส่วนนั้นๆ ก็ยังไม่ลดลงตามที่คาดหวัง เนื่องจากเจ็บปวดน้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้น และใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก และยังสามารถทำควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้ได้สัดส่วนที่ประชับขึ้น หน้าเรียววีขึ้น

ใครที่เหมาะกับการสลายไขมัน ด้วยการฉีด Meso Fat

คนที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุด และไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการออกกำลังกายผู้ที่ต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วนผู้ที่ต้องไม่การผ่าตัด กังวลต่อความเจ็บปวด หรือไม่มีเวลาสำหรับพักฟื้น

บริเวณที่สามารถฉีด Meso Fat เพื่อสลายไขมัน

การฉีด Meso Fat โดยทั่วไปแล้วนิยมฉีดบริเวณใบหน้าเป็นหลัก เนื่องจากมีการสะสมไขมันในบริเวณที่ไม่กว้างมากนัก ทำให้การฉีดสลายไขมันด้วย Meso Fat มีประสิทธิภาพสูง และเห็นผลได้ชัดเจน แต่ก็ยังสามารถฉีด Meso Fat ในส่วนอื่นๆ ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องใช้ตัวยาในปริมาณที่มากกว่า และอาจทำให้ราคาค่าบริการเพิ่มสูงขึ้น

ฉีดสลายไขมันบริเวณแก้ม เพื่อให้ใบหน้าด้วยรวมดูเล็กลง เปลี่ยนรูปหน้าที่ดูกลมให้เรียว กระชับ ดูเข้ารูปฉีดสลายไขมันบริเวณเหนียง หรือช่วงใต้คาง เพื่อลดก้อนไขมันที่สะสมใต้คาง และช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณนั้นอันเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น ดูดียิ่งขึ้นฉีดสลายไขมันบริเวณต้นแขน เพื่อช่วยกระชับต้นแขน ให้ต้นแขนมีขนาดลงเล็ก เสริมความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าแฟชัน เสื้อแขนกุดฉีดสลายไขมันบริเวณต้นขา เพื่อลดปัญหาผิวเปลือกส้ม หรือที่เรียกว่าเซลลูไลท์ ลดไขมันสะสมบริเวณต้นขา ช่วยเพิ่มความกระชับและทำให้ต้นขามีขนาดเล็กลงฉีดสลายไขมันบริเวณสะโพก เพื่อลดขนาดสัดส่วนของสะโพกให้ได้สัดส่วนมากขึ้นฉีดสลายไขมันบริเวณน่อง จุดประสงค์หลักคือเพื่อลดขนาดให้เล็กลง แต่โดยส่วนมากแล้วบริเวณน่องที่มีขนาดใหญ่ มักเกิดจากกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน ดังนั้นก่อนการฉีด Meso Fat ควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์เพื่อหาแนวทางและบริปาณยาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

ข้อดีของการฉีด Meso Fat เพื่อสลายไขมัน

ความเจ็บปวดน้อย ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นใช้เวลาฉีดไม่นานสามารถลดไขมันได้อย่างตรงจุดเห็นผลลัพธ์ได้ไว ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการดูดไขมันสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือดได้มีความปลอดภัยสูง ไร้ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกายราคาค่าบริการไม่แพง

ข้อควรระวังในการฉีด Meso Fat

อาจมีอาการบวมในบริเวณที่ฉีดประมาณ 1 – 2 วัน และไม่ควรนวด หรือกดในบริเวณนั้นหลีกเลี่ยงการอบซาวหน้า นวดหน้า นวดตัว หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาเสื่อมไวขึ้นจำเป็นต้องรอเวลาเห็นผลประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ต้องใช้ตัวยาแท้ ผ่านการรับรองจาก อ.ย. เท่านั้นต้องทำการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นผู้ที่ตั้งครรภ์และอยู่ในภาวะให้นมบุตรไม่ควรเข้ารับการฉีด Meso Fatผลลัพธ์ไม่อยู่อย่างถาวร จึงจำต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสมซ้ำอีก

การเตรียมตัวก่อนฉีดสลายไขมันด้วย Meso Fat

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพองดทานยากลุ่มแอสไพริน น้ำมันปลา พริมโรส แปะก๊วย 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการหากมีโรคประจำตัว หรืออาการแพ้ใดใด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ

การฉีด Meso Fat จำเป็นต้องรอให้ตัวยาที่ฉีดถูกดูดซึมลงไปในชั้นผิว ดังนั้นจึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ใน 2 – 3 สัปดาห์ จากนั้นจึงสามารถมาฉีดซ้ำอีกราว 4 -5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องและอยู่ได้นานขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่มีไขมันมากตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการรับประทานอาหารอีกด้วย

การฉีด Meso Fat …

อยากผิวสวยต้องอ่าน ดริปวิตามินผิว ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

อยากผิวสวยต้องอ่าน ดริปวิตามินผิว ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

ในปัจจุบัน มีเทคนิคเสริมความงามมากมายที่ช่วยปรับสภาพผิวของสาว ๆ ให้ขาวสดใสแลดูสุขภาพดี หนึ่งในนั้นคือการฉีดผิวขาว หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ดริปวิตามิน นั่นเอง

แล้วทำไมการฉีดผิวขาว ถึงเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมขั้นสุดในขณะนี้ แล้วเทคนิคฉีดผิวขาวคืออะไร ปลอดภัยแค่ไหน เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดีหรือประโยชน์อย่างไร รวมถึงต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ?

และสำหรับใครที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดผิวขาว มารวมกันตรงนี้เลย เพราะนิติพล คลินิก จะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกการดริปวิตามินผิวแบบรอบด้าน ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดผิวขาวต่อไป

ฉีดผิวขาว คืออะไร ?

การฉีดผิวขาวหรือดริปวิตามินผิว (Intravenous Vitamin Therapy หรือ IV Drip) เป็นการฉีดวิตามิน กลูตาไธโอน หรือสารอาหารที่มีประโยชน์ ผ่านสายน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือดดำโดยตรง เพื่อบำรุงผิวให้เรียบเนียน ดูขาวกระจ่างใส ซึ่งเทคนิคฉีดผิวขาวได้รับความนิยมอย่างแพรหลายจากข้อดีต่าง ๆ เช่น

ร่างกายสามารถดูดซับวิตามินไปใช้ได้แบบ 100% แตกต่างจากการทาครีมบำรุงผิวหรือการรับประทานวิตามินจากอาหารต่าง ๆ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ที่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้นฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสวยเนียนนุ่มในเวลาไม่นาน และเห็นผลได้อย่างชัดเจนช่วยเพิ่มระดับการต้านสารอนุมูลอิสระและเสริมคอลลาเจนให้เซลล์ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นเทคนิคฉีดผิวขาวเหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

วิตามินที่นิยมใช้ฉีดผิวขาว มีอะไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร

โดยทั่วไป การดริปวิตามินผิวจะมีส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาสวยสดใส เนียนนุ่มน่าสัมผัส เช่น

วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) มีส่วนช่วยชะลอริ้วรอย สร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นในร่างกาย และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วยวิตามินบีรวม ประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิด เช่น Vitamin B1, B2, B5, B9 และ B12 ซึ่งวิตามินบีรวมมีคุณสมบัติฟื้นฟูบำรุงผิว ลดเลือดจุดด่างดำ ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวให้กลับมาแข็งแรง คืนความอ่อนวัยวิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดปัญหาผิวแห้งหยาบกร้าน และช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ NAC (N-Acetyl Cysteine) ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์กลูตาไธโอนออกมาตามธรรมชาติได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวดูใส เรียบเนียนเสมอกัน

ฉีดผิวขาว มีอันตรายจริงหรือ ?

การฉีดผิวไม่มีอันตรายต่อร่างกาน เพราะวิตามินที่ถูกฉีดผ่านเส้นเลือดนั้น คล้ายกับวิตามินหรือสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง แต่หากเข้ารับบริการในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดผิวขาว ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

ฉีดผิวขาว ครั้งเดียวก็พอ จริงหรือ ?

ต้องบอกว่า การฉีดผิวขาวให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยทั่วไป สามารถฉีดวิตามินผิวได้ประมาณ 1 ครั้ง / สัปดาห์ ภายใต้การกำกับดูแลและคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และควรทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น หลังจากฉีดผิวขาวไปแล้วประมาณ 3-5 …

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

เคล็ดลับดูแลตัวเองง่าย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเป็นการใช้สารประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มขนาดและปรับโครงสร้างให้ดูอวบอิ่ม เป็นทรงมากขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีดโดยไม่ต้องรอหลังพักฟื้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับการดูแล ดังนั้น การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นาน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการอย่างไร

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว อาจมีอาการบวมหรือแดงในบริเวณที่ฉีด และอาจมีรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ รอบริมฝีปาก ซึ่งอาการบวมที่เกิดขึ้นจะหายไปภายใน 2-3 วันและจะเริ่มเข้าที่ เป็นรูปทรงตามที่ต้องการภายใน 1-2 สัปดาห์

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

เราสามารถดูแลปากให้เรียบเนียนและเข้ารูปสวยหลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

ประคบเย็นหลังการฉีดเป็นเวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมงเพื่อลดอาการบวมงดออกกำลังกายแบบใช้แรงมากภายใน 2-3 วันแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะการออกกำลังกายจะเพิ่มความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจ อาจทำให้อาการช้ำ บวมหรือแดงรุนแรงยิ่งกว่าเดิม และอาจทำให้ปากเสียรูปทรงได้ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว และเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวมหรืออักเสบในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด รสเค็มหรือรสเผ็ดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้อาหารบวมแย่ลงและหายบวมช้ากว่าปกติ แต่ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์และวิตามินเคสูง อย่าง ผักโขมหรือผักคะน้าแทนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัดหรืออบอ้าว อย่างห้องซาวน่าหรือห้องออกกำลังกาย ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ปากงดแต่งหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมงฉีดฟิลเลอร์ แต่รักษาริมฝีปากให้ชุ่มชื้นด้วยลิปบาล์มหรือวาสลีนแทนหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำและหนุนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวมเป็นเวลาประมาณ 2-3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปากไม่แตะ แกะ ลอกผิวหนังบริเวณริมฝีปากและไม่ควรขยับปากบ่อยจนเกินไปหลีกเลี่ยงการขึ้นเครื่องบินเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเพราะความกดอากาศอาจทำให้อาการบวมและช้ำรุนแรงขึ้น

ที่ขาดไม่ได้คือการสังเกตอาการตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างใกล้ชิด โดยหากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ตามปกติ แต่หากเกิน 3 …

ชวนดูก่อนฉีด BOTOX มีผลข้างเคียงยังไงบ้าง?

การฉีดโบท็อกลิฟหน้า หรือ Botulinum toxin นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มาตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน เนื่องจากโบท็อกมีคุณสมบัติด้านความงามหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดกราม ลดแก้ม ยกกระชับกรอบหน้า เพื่อให้หน้าเรียวขึ้น รวมถึงมีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอยบริเวณใต้ตา หน้าผาก หรือรอยตีนกาต่างๆ ได้อีกด้วย

แต่การฉีดโบท็อกลิฟหน้าอาจมีผลข้างเคียงต่างๆ ตามมาได้ ตั้งแต่น้อยไปจนถึงมาก ไม่ว่าจะเป็น

ปวดศรีษะ

หลังฉีดโบท็อก ในบางรายอาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งอาจเกิดจากการแพ้ตัวยาที่ฉีด ผู้ที่มีอาการจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่โดยปกติแล้ว หากไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง อาการก็จะค่อยๆ หายไปได้เอง

หน้าไม่สมมาตรกัน

ในการฉีดโบท็อกลิฟหน้า บางครั้งในผู้ป่วยอาจมีอาการปากเบี้ยว แก้มหย่อนคล้อย หรือใบหน้าทั้ง 2 …

копирайтингоранжевый цветкупить ехолот