อยากลดกราม หน้าบานใครจะไปทน
สำหรับคนที่รักสวยรักงาม อยากมีใบหน้าที่เรียวสวยตามเทรนด์เกาหลี คงจะหนักใจไม่น้อยเวลาที่มองรูปหน้าของตัวเองบนกระจกแล้วต้องพบกับ “หน้าบานๆ อยากลดกราม ใหญ่ๆ” ยิ่งถ้ามีใครมาล้อด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจที่มียิ่งลดลงไปอีก
แล้วจะทำอย่างไรให้หน้าบานๆ ใหญ่ๆ กลับมาเรียวสวยแบบสาวเกาหลีที่เคยเห็นในละครซีรี่ย์ได้?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสาเหตุที่รูปหน้าหรือกรามของเราใหญ่นั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีสาเหตุทั่วไปดังต่อไปนี้
- ลักษณะทางพันธุกรรม ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เรามีกรามที่ใหญ่หรือใบหน้าที่เรียวเล็ก ลักษณะเหล่านี้เราจะได้รับถ่ายทอดจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของเรามา ซึ่งจะปรากฏบนรูปหน้าของเราอยู่แล้ว
- การเจริญเติบโตของกระดูก สำหรับบางคนที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกในร่างกายที่ดีหรือมากเป็นพิเศษ อาจทำให้กระดูกในส่วนกรามมีขนาดใหญ่ด้วย
- มีกล้ามเนื้อหรือไขมันที่กราม บางคนอาจมีกล้ามเนื้อหรือไขมันบริเวณส่วนกรามอยู่มาก โดยกล้ามเนื้อที่กรามนั้นอาจเกิดจากการใช้งานกรามอย่างหนัก เช่น การเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยากบ่อยๆ ร่างกายจึงสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานอย่างหนัก ส่วนไขมันนั้นเกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินไป อาหารส่วนเกินจึงแปรสภาพเป็นไขมันและนำไปเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งบริเวณกรามด้วยซึ่งเมื่อรวมกับกรามที่มีขนาดใหญ่ด้วยแล้วจะยิ่งทำให้รูปหน้าใหญ่ไปด้วย
- อาการอื่นๆ เช่น มีอาการบวมน้ำที่เกิดจากการรับประทานอาหาร ทำให้หน้าบวมขึ้น แลดูกรามใหญ่กว่าเดิม
หน้าเรียวได้ด้วยหลากหลายวิธี

ปัญหาหน้าบานกรามใหญ่ที่หลายคนอาจกำลังเป็นอยู่นั้นไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไขเลย เพราะในปัจจุบันนั้นมีวิธีการที่หลากหลายที่มาแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้หน้าที่บานใหญ่สามารถเรียวสวยได้ วิธีการแก้ไขนั้นมีทั้งแบบที่ง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง ไปจนถึงวิธีที่ใช้นวัตกรรมความก้าวหน้าทางการแพทย์เข้ามาปรับรูปหน้าของเรา ฟังดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ ไปดูกันว่ามีวิธีอะไรกันบ้าง โดยจะขอไล่ไปตั้งแต่วิธีที่ง่ายไปจนถึงวิธีที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ
1. ลดน้ำหนัก สำหรับบางคนที่มีรูปหน้าใหญ่เพราะมีน้ำหนักตัวมาก ทำให้ไขมันไปสะสมอยู่บริเวณกรามทำให้หน้าบานใหญ่ อาจแก้ไขได้ด้วยการลดน้ำหนักลงซึ่งจะช่วยให้หน้าเรียวลงได้ โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอประมาณ 3-5 ครั้ง / สัปดาห์ เฉลี่ยครั้งละ 45-60 นาที
2. บริหารกรามด้วยตนเอง เป็นวิธีการบริหารกรามอย่างง่ายๆ ซึ่งหากทำเป็นประจำจะช่วยให้รูปหน้ากระชับขึ้น ได้ ยกตัวอย่างท่าบริหารง่ายๆ เช่น
– การอมลมไว้ที่กระพุ้งแก้ม โดยทำทีละข้างสลับกันไปมา
– การทำปากจู๋ค้างไว้ โดยทำค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
– การยิ้มทีละข้าง โดยยกมุมปากให้มากที่สุด
3. การนวดหน้า เป็นวิธีการบริหารรูปหน้าอีกแบบหนึ่งโดยการใช้นิ้วและมือนวดหมุนวนบริเวณใบหน้าตามจุดต่างๆ เช่น ขมับ หน้าผาก รอบดวงตา มุมปาก ซึ่งการนวดหน้านั้นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า กระตุ้นให้ผิวหน้ากระชับ และช่วยให้รูปหน้าเรียวขึ้นได้ โดยควรทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องใช้เวลานานมากจึงจะเห็นผล
4. ครีมหน้าเรียว การใช้ครีมหน้าเรียวที่มีขายทั่วไปนั้นจะมีส่วนช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แต่ผลที่ทำให้หน้าเรียวนั้นต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะปัญหาหน้าบานหรือกรามใหญ่นั้นมักเกิดจากกระดูก การใช้ครีมหน้าเรียวแล้วได้ผลนั้นจึงมักเกิดกับผู้ที่หน้าบานใหญ่เนื่องจากไขมันมากกว่า เนื่องจากครีมบางชนิดมีคุณสมบัติในการสลายไขมัน และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทำให้ลดอาหารบวมของใบหน้าลง และแลดูหน้าเรียวลงได้
5. การทำ RF RF (Radio Frequency) เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงระดับเดียวกับคลื่นวิทยุ โดยหลักการทำงานของ RF นั้นจะเป็นการส่งผ่านคลื่นเสียงเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิวหนังในระดับลึก ช่วยลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น และเมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงได้

6. การฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารประกอบ Hyaluronic Acid ซึ่งพบได้ในผิวหนังของเราอยู่แล้ว มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำให้ผิวอิ่มเอิบ การฉีดฟิลเลอร์ให้หน้าเรียวเล้กนั้นจะเน้นฉีดบริเวณคางเพื่อช่วยเสริมให้คางเรียวยาวขึ้น ซึ่งรูปหน้าหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเรียวเล็กลง หลังจากฉีดไปแล้วจะคงสภาพได้ 8-12 เดือน ก่อนจะสลายไป
7. การฉีดโบท๊อกซ์ โบท็อกซ์ (Botox หรือ Botulinum Toxin) เป็นสารคลายกล้ามเนื้อชนิดที่ออกฤทธิ์ยาวนาน 6-8 เดือน มีคุณสมบัติในการลดการมัดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง จึงนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้ โดยจะเน้นฉีดที่บริเวณกรามที่เป็นปัญหา เมื่อฉีดแล้วกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะค่อยๆ คลายตัวลงภายใน 2-4 สัปดาห์ ส่งผลให้รูปหน้าค่อยๆ ดูเรียวเล็กขึ้น และโบท๊อกซ์จะออกฤทธิ์เต็มที่จนเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 เดือน
8. การทำ BOTOX Lift เป็นเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงเป็นธรรมชาติ รูปหน้าแลดูเรียวเล็กลงพร้อมไปกับการยกกระชับขึ้นของผิวหน้า เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าไม่มากนัก โดยจะฉีดเน้นที่กล้ามเนื้อบริเวณขอบของใบหน้า (แนวกราม) และหน้าผาก ซึ่งผิวจะเริ่มยกกระชับขึ้นหลังจากฉีดไปได้ 7 วัน รูปหน้าจะค่อยๆ เรียวขึ้น
9. การทำ Nefertiti Lift คำว่า Nefertiti นั้นมาจากชื่อของพระนางเนเฟอร์ติติ ราชินีของอาณาจักรอียิปต์โบราณที่ได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่มีลำคอและรูปคางที่งดงามมาก Nefertiti Lift เป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าด้วย BOTOX ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาเหนียงห้อยย้อย หรือผิวหน้าบริเวณคาง ขากรรไกร จนถึงลำคอไม่ตึงกระชับ โดยการฉีดนั้นจะเน้นบริเวณขอบของใบหน้า ซึ่งผิวบริเวณที่ฉีดจะเริ่มตึงกระชับขึ้น บริเวณแนวของคางและกรอบของใบหน้าจะเข้ารูปมากขึ้น เหนียงที่ย้อยเป็นปัญหาจะแลดูเรียบขึ้น โดยผลของการรักษานั้นจะคงสภาพได้นาน 5-6 เดือน

10. การฉีดเมโสแฟต เมโสแฟต (Meso-Fat หรือ Meso Lipolysis) เป็นสารประกอบวิตามินที่ฉีดเข้าไปในชั้นไขมันเพื่อเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินที่มีการสะสมอยู่ให้สลายไป โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะไปกระตุ้นให้ไขมันเกิดการหดตัว และไขมันจะเริ่มสลายตัวลงไปจนรูปหน้าเรียวเล็กลง เหมาะสำหรับสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น แก้ม โดยเฉพาะผู้ที่แก้มใหญ่หรือใบหน้ากลม เพราะมีการสะสมไขมันบริเวณผิวหน้ามาก
11. การร้อยไหม เป็นการนำเส้นไหมสอดเข้าไปใต้ผิวหน้าเพื่อเข้าไปรั้งให้กระชับขึ้น ช่วยให้รูปหน้าเรียวเล็กลง ปัจจุบันการร้อยไหมที่ช่วยให้รูปหน้าเรียวลงอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพนั้นจะใช้ไหมละลาย PDO ที่ใช้ในการทำศัลยกรรมหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อของผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผิวหน้ายกกระชับขึ้น ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ทั้งนี้การร้อยไหมจะใช้ไหมจำนวนกี่เส้นและกรรมวิธีการร้อยเป็นอย่างไรนั้นต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
12. การทำศัลยกรรม ซึ่งจะมีทั้งการผ่าตัดกรามที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามหรือกระดูกขากรรไกรขนาดใหญ่ ช่วยเปลี่ยนรูปหน้าให้เรียวได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งการผ่าตัดกรามนั้นสามารถทำได้ทั้งจากภายในช่องปากและภายนอกช่องปาก ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ มีการทำที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน และการทำศัลยกรรมเพื่อปรับแต่งกระดูกบริเวณโหนกแก้ม เพื่อให้ช่วยให้โหนกแก้มที่ใหญ่ให้เรียวเล็กลงได้อีกด้วย
วิธีเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นที่หยิบยกมาให้ดูเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน ใหญ่ กรามโต ก็คงต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและปฏิบัติอย่างเหมาะสม หรือหากมีปัญหาไม่เข้าใจก็ควรเลือกเข้าไปปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อย่างแพทย์ที่นิติพลคลินิก รับปรึกษาปัญหาผิวปัญหารูปหน้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าบริการประทับใจค่ะ
บทความโดย นิติพล คลินิก
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บริการปรับรูปหน้า nitipon clinic