สลายไขมัน-นิติพลคลินิก

สลายไขมันยังไงดี เบื่อต้นแขนต้นขาใหญ่!

     เซลลูไลท์เป็นไขมันที่เป็นของเหลวและสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย สะสมกันจนเป็นชั้นหนาอยู่ในเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่ออยู่ใต้ผิวหนัง ลักษณะเป็นผิวตะปุ่มตะป่ำเหมือนผิวเปลือกส้ม ใหญ่เทอะทะ ไม่เรียบเนียน เซลลูไลท์จะเกิดขึ้นในชั้นผิวหนังของคนที่การระบายน้ำเหลืองในร่างกายทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายจึงไม่สามารถขับไขมันและของเสียออกไปได้และสะสมกันจนกลายเป็นเซลลูไลท์ บางคนขึ้นเป็นลอน ๆ เพราะมีไขมันสะสมเป็นก้อนผสมอยู่กับของเสียและน้ำปะปนอยู่ในถุงนั้น ซึ่งในแต่ละก้อนไขมันจะมีเปลือกเหนียว ๆ ห่อหุ้มอยู่ มองจากภายนอกแล้วเห็นเป็นลอนของไขมัน ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 20 ปี กว่าร้อยละ 90 มักจะเริ่มมีอาการสะสมของเซลลูไลท์ นอกจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้วปัจจัยทางพันธุกรรมและเชื้อชาติก็เป็นส่วนหนึ่ง อย่างคนยุโรปจะมีเซลลูไลท์มากกว่าคนเอเชีย ผู้หญิงมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้มากกว่าผู้ชาย แล้วจะ สลายไขมัน ยังไงดี เดี๋ยวมีคำตอบค่ะ

ผอมก็มีเซลลูไลท์ได้

   เซลลูไลท์สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งคนผอมและคนอ้วน แต่จะพบได้มากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังในผู้หญิงจะเรียงเป็นแนวตั้ง ปริมาณไขมันจึงสะสมได้มาก ส่วนเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังในผู้ชายนั้นจะเรียงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆ ปริมาณไขมันจึงสะสมได้น้อย สามารถเช็คได้ง่ายๆโดย ลองจับส่วนหน้าท้องออกมาดูสักครึ่งนิ้ว หรือหงายท้องแขนแล้วใช้มืออีกข้างจับดึงชั้นไขมันท้องแขนออกมาให้ตึง หากพบว่าผิวของเรามีลักษณะคล้ายผิวส้มหรือผิวมะกรูด ก็นั่นแหละคือ “เซลลูไลท์” หากปล่อยทิ้งไว้ นานวันเข้ามันก็จะเริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องจับหรือบีบดู

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากเซลลูไลท์

  1. ดื่มน้ำบ่อยๆ เฉลี่ยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อช่วยในกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ ครั้งละ 30-45 นาที เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง เพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลลูไลท์ เช่น อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีรสหวานจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควรงดสูบบุหรี่

ถ้าเป็นเซลลูไลท์แล้วล่ะ จะทำอย่างไรดี

หากเป็นไขมันธรรมดาร่างกายเราจะสามารถกำจัดออกไปได้ง่าย ๆ ด้วยการออกกำลังกาย แต่เซลลูไลท์ไม่สามารถกำจัดออกได้ง่ายเช่นนั้น ต้องใช้วิธีการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร การนวด หรือทำทรีทเมนต์ควบคู่กันไปจึงจะเห็นผล อย่างเช่น การขัดถูผิวในขณะอาบน้ำทุกวัน การนวดน้ำมัน นั้นสามารถช่วยกระตุ้นระบบต่อมน้ำเหลืองให้ไหลเวียนได้ดี กระตุ้นประสิทธิภาพของระบบการกำจัดของเสียของร่างกาย และเป็นการช่วยขจัดเซลล์ไขมันได้อีก หรืออีกวิธีที่เป็นที่นิยมโดยทั่วไปคือ การใช้ครีมนวดสลายเซลลูไลท์

   การใช้ครีมประกอบการนวดเป็นวิธีสลายไขมันซึ่งนิยมโดยทั่วไป และสามารถช่วยให้เซลลูไลท์แลดูเบาบางลงได้จริง ปัจจุบันในท้องตลาดมีครีมนวดสลายไขมันวางขายหลายยี่ห้อ ในการเลือกควรดูส่วนประกอบสำคัญที่สกัดจากธรรมชาติ อย่าง โกโก้ ที่ช่วยยับยั้งการสะสมของน้ำตาลในเลือด คาเฟอีน ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญไขมัน โดยโกโก้และคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบที่นิยมใช้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมคุณสมบัติเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารในร่างกายและเร่งการเผาผลาญไขมัน จึงช่วยในการลดน้ำหนักได้ ไคโตซาน (Chitosan) ช่วยขจัดไขมันได้ โดยประจุบวกของไคโตซานจะช่วยดักจับกรดไขมันอิสระและคลอเลสเตอรอลที่มีประจุลบ ซึ่งจะถูกขับถ่ายออกมาพร้อมกับไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ยังมี สารสกัดแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารสกัดที่ได้จากพริก มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มระดับของเอนไซม์ในตับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำให้ไขมันแตกตัว การช่วยเร่งเมตาบอลิซึม จึงช่วยทำให้น้ำหนักตัวลดลง สารสกัดจากส้มแขก ซึ่งมีคุณสมบัติในการขัดขวางการเปลี่ยนแปลงของสารอาหารจำพวกน้ำตาลกลูโคสเป็นสารอาหารจำพวกไขมันสะสมได้ และยังช่วยเร่งการสลายไขมันเก่าที่สะสมอยู่ได้อีกด้วย

   อีกวิธีที่ได้รับความนิยมและเห็นผลรวดเร็ว คือการทำทรีทเมนต์ลดไขมัน กระชับสัดส่วนตามคลินิกความงาม โดยจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ทรีทเมนต์ที่ว่านี้ อาจจะเป็นการนวดให้เซลลูไลต์แตกตัวด้วยเครื่องอัลตร้าโซนิค (Ultrasonic) เครื่องไวเบรชั่น (Vibration) การฉีดเมโสเทอราพี (Mesotheraphy) หรือฉีดคาร์บ็อกซี่ (Carboxy) เข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพื่อสลายเซลลูไลต์โดยตรง รวมถึงการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และยกกระชับผิว เป็นวิธีที่ได้ผลดีหากรับการรักษาอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์

   อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเป็นเพียงวิธีการรักษาที่อาจได้ผลเพียงชั่วคราว พื้นฐานสำคัญของการรักษาเซลลูไลต์คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม อย่างการควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยขจัดเซลลูไลต์ไปได้เท่านั้น ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรรณสดใส ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วยค่ะ

บทความโดยนิติพลคลินิก